นี่คือภาพบรรยากาศจากหลายเมืองในยูเครนที่กลายเป็นซากปรักหักพัง หลังตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพรัสเซียในสงครามรุกรานยูเครนครั้งนี้ โดยขอบเขตของความเสียหายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องหลังผ่านมานานกว่า 1 เดือนแล้ว หลายฝ่ายคาด ไฟแห่งสงครามจะยังคงลุกโชนต่อไป กลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่อีกครั้งในยุโรป
จาวูโซลู ซึ่งเข้าร่วมการประชุมของพรรคความยุติธรรมและการพัฒนาของตุรกี กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่าหากรัสเซียและยูเครนไม่ก้าวถอยหลังจากจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบันก็ยังมีหวังกับการหยุดยิง โดยทั้งสองฝ่ายใกล้จะบรรลุข้อตกลงในประเด็นพื้นฐานแล้ว ก่อนหน้านี้จาวูโซลูได้ประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในกรุงมอสโก และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยูเครนในเมืองลวิฟของยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้านอิบราฮิม คาลิน โฆษกประธานาธิบดีตุรกี ระบุว่ารัสเซียและยูเครนกำลังเจรจา 6 ประเด็น ได้แก่ ความเป็นกลางของยูเครน การปลดอาวุธและการรับประกันความมั่นคง การขจัดระบอบนาซี การกำจัดอุปสรรคของการใช้ภาษารัสเซียในยูเครน สถานะของดอนบาสส์ และสถานะของไครเมีย อนึ่ง ตุรกีจัดการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียและยูเครน เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมคู่ขนานของการประชุมทางการทูตที่เป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้ง ทว่าการเจรจาครั้งนั้นไม่ได้สร้างความคืบหน้าเกี่ยวกับการหยุดยิงมากนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ภาษาดังกล่าวเพื่อประณามประธานาธิบดีปูติน และทำเนียบขาวในเวลาต่อมากล่าวว่าเขา “พูดจากใจ” อย่างไรก็ตาม เครมลินกล่าวว่ามันเป็น “วาทศิลป์ที่ให้อภัยไม่ได้” “เราเชื่อว่าวาทกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และยกโทษให้ไม่ได้สำหรับประมุขแห่งรัฐ ซึ่งการระเบิดได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายแสนคนทั่วโลก” โฆษกของมิทรี เปสคอฟ บอกกับสำนักข่าวทัสของรัสเซีย การแลกเปลี่ยนในวอชิงตันเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่นักข่าวถามประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า “หลังจากทุกสิ่งที่เราได้เห็น คุณประธานาธิบดีพร้อมที่จะเรียกปูตินว่าเป็นอาชญากรสงครามหรือไม่” ประธานาธิบดีตอบว่า “ไม่” ก่อนที่จะถูกท้าทาย จากนั้นจึงเปลี่ยนคำตอบว่า “คุณถามฉันว่าฉันจะบอกไหม …. โอ้ ฉันคิดว่าเขาเป็นอาชญากรสงคราม” โฆษกทำเนียบขาว Jen Psaki กล่าวในภายหลังว่าประธานาธิบดีได้พูดจากใจของเขาหลังจากเห็นภาพ “ป่าเถื่อน” ของความรุนแรงในยูเครนแทนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการ เธอตั้งข้อสังเกตว่ามีกระบวนการทางกฎหมายที่แยกต่างหากซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณาคดีอาชญากรรมสงคราม – และการดำเนินการนั้นแยกจากกัน บัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีปูติน: “ปูตินกำลังสร้างความหายนะและความสยดสยองให้กับยูเครน – ทิ้งระเบิดอาคารอพาร์ตเมนต์และแผนกสูติกรรม… สิ่งเหล่านี้เป็นความโหดร้าย มันเป็นความชั่วร้ายต่อโลก”สะพานทางการทูตระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียกำลังถูกจุดไฟเผา คำกล่าวของนายไบเดนเป็นเรื่องแปลก แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะเป็นนักการเมืองที่มีประวัติในการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ในคำพูดที่ดูเหมือนไม่จริงจัง (ดูเช่น ความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับการแต่งงานของเกย์ในปี 2555) หลังจากบอกนักข่าวในตอนแรกว่าเขาไม่คิดว่านายปูตินเป็นอาชญากร เขากลับมาและย้อนกลับ หากมีการอภิปรายภายในที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับวิธีจัดการกับการเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นในสภาคองเกรสและสื่อมวลชนที่ประณามนายปูตินในลักษณะนี้ ประธานาธิบดีก็จะยุติเรื่องนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์แน่นอนว่าสิ่งนี้จะทำให้นายไบเดนและฝ่ายบริหารของเขาทำงานร่วมกับรัสเซียได้ยากขึ้นในอนาคต ทุกสัมปทานหรือข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ ไม่ว่าจะในหัวข้อใดก็ตาม จะเชิญผู้ชุมนุมใหม่: คุณจะเชื่อมโยงกับอาชญากรได้อย่างไร? ในความคิดเห็นของเขา นายไบเดนอาจแค่ยอมรับความจริงใหม่ว่า …
“เรารับทราบนโยบายเปิดประตูเข้าเป็นสมาชิกองค์การฯ นานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้เราได้ยินมาว่ายูเครนไม่สามารถเข้าประตูเหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับ ผมดีใจที่ประชาชนเริ่มเข้าใจสิ่งนี้ และหันมาพึ่งพาตนเองและพันธมิตรที่ช่วยเหลือยูเครน” เซเลนสกีกล่าว ขณะเดียวกันเซเลนสกีกระตุ้นเตือนองค์การฯ จัดตั้งเขตห้ามบินเหนือยูเครนอีกครั้งหลังจากเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย แม้มองว่าโอกาสที่องค์การฯ จะตัดสินใจตั้งเขตห้ามบินดังกล่าวยังคงเป็นไปได้ยากอนึ่ง รัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา และเข้าสู่วันที่ 21 แล้วที่สงครามรัสเซีย ยูเครน ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางผู้เสียชีวิตและบาดจ็บมากมาย รวมถึงชาวยูเครนต้องอพยพกว่า 2 ล้านคน
วันที่ 14 มี.ค.65 อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก เจ้าของ Tesla และ SpaceX เรียกเสียงฮือฮา เมื่อเขาได้ประกาศขอท้า วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต่อสู้แบบตัวต่อตัว โดยมียูเครนเป็นเดิมพัน มัสก์ เขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษสลับกับภาษารัสเซีย ในทวิตเตอร์ส่วนตัว @elonmusk ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 77.8 ล้านแอคเคาท์ ระบุว่า “ผมของท้า วลาดิมีร์ ปูติน สู้แบบตัวต่อตัว โดยมียูเครนเป็นเดิมพัน”จากทวีตดังกล่าว นายดมิทรี โรโกซิน ผู้อำนวยการใหญ่แห่ง รอสคอสมอส สำนักงานอวกาศของรัสเซีย ได้ตอบกลับมัสก์ โดย ยกถ้อยคำจากหนังสือเรื่อง “The Tale of the Priest and of His Workman Balda” ของกวีชาวรัสเซีย ระบุว่า “เจ้าเด็กแสบที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แกอ่อนแอไปจนเสียเวลาเปล่าที่จะมาสู้กับข้า ไปเอาชนะน้องชายของข้าให้ได้เสียก่อน” …
วันที่ 10 มี.ค.65 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าว กรณีไทยให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน ระบุ กระทรวงการต่างประเทศได้รับคำร้อง ขอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสถานเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำประเทศไทย จากการสู้รบในประเทศยูเครน ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายมาก ระทรวงการต่างประเทศ จึงได้อนุมัติงบประมาณ ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน จำนวน 2,000,000 บาท โดยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ จัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ผ่านสภากาชาดยูเครน หรือองค์การระหว่างประเทศที่เหมาะสมสำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ของไทย ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2562 ไทยเคยบริจาคเงินช่วยเหลือยูเครนด้านมนุษยธรรม และการแพทย์แก่ผู้พลัดถิ่นทางภาคตะวันออกของยูเครน จำนวน 1,000,000 บาท ขณะที่ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในยูเครนนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้ร่วมกับสถานทูต และสถานกงสุลของไทยอีกหลายแห่ง ได้อพยพคนไทยจากศูนย์ดูแลช่วยเหลือในยูเครน 2 แห่ง คือที่เมืองลวีฟ ผ่านโปแลนด์ และเมืองโอเดสซา ผ่านโรมาเนีย ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ …
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผลจากการเจรจารอบสอง อาจมีการหยุดยิงชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้ และเพื่อเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรมด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับทราบตรงกันถึงการจัดส่งยาและอาหารไปยังบริเวณที่มีการสู้รบรุนแรง โดยรัสเซียกับยูเครนจะเปิดโต๊ะเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ตัวแทนรัสเซียยังคงยืนยันว่า ต้องการให้ยูเครนเป็นพื้นที่ปลอดทหาร และยุติความพยายามเข้าร่วมนาโต้ พร้อมยํ้าว่ารัสเซียไม่สามารถปล่อยให้ยูเครนมีโครงสร้างพื้นฐานทางกองทัพได้ เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียด้าน ประธานาธิบดี โลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศยืนยันเช่นกันว่า ทางยูเครนจะไม่ปลดกองทัพ แต่พร้อมพบปะหารือกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียโดยตรง นอกจากนี้ มีรายงานว่า เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส หนึ่งในประเทศผู้นำของสหภาพยุโรปที่เคยเดินทางไปเจรจากับ ปูติน ก่อนรัสเซียโจมตียูเครน ได้ต่อสายโทรศัพท์ตรงถึง ปูติน และพูดคุยกันนานหลายชั่วโมง ซึ่งแม้ มาครง พยายามโน้มน้าวให้ ปูติน ยุติการรุกรานยูเครน แต่ ปูติน ยังคงยืนยันว่าจะปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนต่อไป
ด้าน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยังคงยืนยันว่าจะไม่หนีออกจากกรุงเคียฟ และพร้อมต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย แต่ขอให้สหภาพยุโรปเข้ามาช่วยเหลือ โดยที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกพยายามกดดันรัสเซียด้วยการควํ่าบาตรครั้งใหญ่ ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติยุโรป นอกจากนี้ ช่วงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยวิสามัญฉุกเฉิน (UNGA) ได้ขอมติจากชาติสมาชิก 193 ประเทศ ในการออกเสียงสนับสนุนประณามรัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกรุกยูเครน และขอให้ถอนกำลังในทันทีภายใต้เส้นเขตแดนที่นานาชาติให้การยอมรับในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขทั้งนี้ การลงมติดังกล่าว มีผู้แทนจาก 141 ประเทศจากทั้งหมด 193 ประเทศ รวมถึงไทย โหวตสนับสนุนการประณามรัสเซีย แต่มี 5 ประเทศโหวตคัดค้าน คือ รัสเซีย, เบลารุส, ซีเรีย, เอริเทรีย และเกาหลีเหนือ ส่วนอีก 35 ประเทศนำ จีน งดออกเสียง อย่างไรก็ตาม ผลการลงมติดังกล่าวแม้ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย โดยน้ำหนักทางการเมืองในระดับโลก แต่คงไม่เพียงพอให้รัสเซียหยุดการโจมตียูเครนได้
วันที่ 2 มี.ค.65 สหภาพนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (FIFPRO) โพสต์แจ้งข่าวพร้อมแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของ วิตาลี ซาปีโล นักเตะชาวยูเครนวัย 21 ปี และ ดิมิโทร มาร์ติเนนโก วัย 25 ปี ซึ่งมีรายงานว่าเสียชีวิตในสงครามรัสเซีย ยูเครน ซาปีโล เป็นนักเตะทีมเยาวชน ของคาร์ปาตี วีฟ ( Karpaty Lviv) ทีมในฟุตบอลลีกดิวิชั่นสองของยูเครน โดยเข้าร่วมกองทัพยูเครน และได้เสียชีวิตขณะต่อสู้กับกองทัพรัสเซียใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศขณะที่ มาร์ติเนนโก เล่นให้กับ สโมสรเอฟซี กอสโทเมล (FC Gostomel) เสียชีวิตพร้อมกับแม่ของเขาในอพาร์ทเม้นท์กรุงเคียฟซึ่งถูกอาวุธโจมตี ก่อนหน้านี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (FIFA) และสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า (UEFA)ได้ประกาศแบนทีมชาติรัสเซียออกจากการแข่งขันฟุตบอล ทั้งระดับชาติ และสโมสร จากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน
วันที่ 1 มี.ค.65 นายดิมิโทร คูเลอบา รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศยูเครน โพสต์วิดีโอผ่านทางทวิตเตอร์ เป็นภาพเหตุระเบิดกลาง จัตุรัสเสรีภาพ จัตุรัสสำคัญและที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งอยู่ทางตะวันออกออกเฉียงเหนือของประเทศ พร้อมกล่าวหาว่าประธานาธิบดีวลาร์ดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม (war crimes) โดยการยิงขีปนาวุธใส่โซนที่อยู่อาศัยของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ทั่วโลกกดดันและโดดเดี่ยวรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบ ทางการยูเครนระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 6 ราย ในจำนวนนั้นเป็นเด็ก 1 ราย ก่อนหน้าเหตุระเบิดดังกล่าว ประธานาธิบดีวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ได้ออกมาประณามว่า การโจมตีประชาชนของกองทัพรัสเซียนั้นเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม โดยอ้างว่า วานนี้(28 ก.พ.) รัสเซียได้ใช้กระสุนระเบิดชนิดคลัสเตอร์บอมบ์ (Cluster Bomb) โจมตีอาคารที่อยู่อาศัยของประชาชนในเมืองคาร์คีฟ จนเป็นเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย ในจำนวนนั้น 3 รายเป็นเด็กขณะที่นายคาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า เขาจะเปิดการสอบสวนสถานการณ์ในยูเครน โดยมี “หลักฐานที่สมเหตุสมผล” …