AFP อ้างรายงาน KCNA สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือซึ่งรายงานในวันนี้ (25 มี.ค.) ว่าคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งการให้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ชนิดใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการยับยั้งสงครามนิวเคลียร์ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับจักรวรรดินิยมอเมริกาการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยสื่อรายงานว่าเป็นการยิงขีปนาวุธที่ทรงพลังที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 และคาดว่าจะมีพิสัยการยิงไกลกว่าขีปนาวุธข้ามทวีปที่ทำการทดลองครั้งก่อน คิมกล่าวว่า “ขีปนาวุธใหม่นี้จะปฏิบัติภารกิจและหน้าที่อย่างน่าเชื่อถือในฐานะผู้ยับยั้งสงครามนิวเคลียร์ที่ทรงพลัง…ให้คนทั้งโลกรู้ซึ้งถึงพลังของกองกำลังติดอาวุธของเราอีกครั้ง…และพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเผชิญหน้ากับจักรวรรดินิยมอเมริกาที่มาพร้อมกับอันตรายของสงครามนิวเคลียร์” ขีปนาวุธฮวาซอง-17 (Hwasong-17) เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปขนาดใหญ่ที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนต.ค. ปีที่แล้ว และได้รับการขนานนามจากบรรดานักวิเคราะห์ว่าเป็น “ขีปนาวุธปีศาจ”KCNA รายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากกรุงเปียงยาง และพุ่งทะยานไปที่ระดับความสูงสุด 6,248.5 กิโลเมตร เคลื่อนที่เป็นระยะทาง 1,090 กิโลเมตร เป็นเวลา 4,052 วินาที ก่อนจะพุ่งชนเป้าหมายที่กำหนดไว้ในทะเลญี่ปุ่นอย่างแม่นยำอย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือกระตุ้นให้สหรัฐ เกาหลีใต้ และสหประชาชาติเกิดความไม่พอใจ และออกมาประณามในทันที โดยสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทเกาหลีเหนือ 1 แห่ง รวมถึงบริษัทรัสเซียอีก 2 แห่ง ฐานส่งมอบอุปกรณ์สนับสนุนโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ด้านประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ระบุว่าการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือถือเป็นการละเมิดสัญญาที่คิมให้ไว้ต่อประชาคมโลก และละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติด้วย พร้อมระบุว่านี่เป็นภัยคุกคามต่อโลกอย่างร้ายแรง …
Business insider รายงานว่า เจ้าหน้าที่กลาโหมที่สถานทูตยูเครนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผยว่า ยูเครนได้รับใบสมัครจากชาวอเมริกันที่ต้องการเข้าร่วมกับยูเครนสู้กับกองทัพรัสเซียแล้ว 3,000 ใบเจ้าหน้าที่รายนี้เผยกับ Military Times ว่า อาสาสมัครหลายร้อยคนเดินทางถึงยูเครนแล้ว และในบรรดาผู้สมัครมีทหารผ่านศึกหลายคนแต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีกี่คน ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศจัดตั้งกองทหารต่างด้าวสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาช่วยยูเครนสู้กับรัสเซีย “ใครก็ตามที่ต้องการเข้าร่วมการป้องกันยูเครน ยุโรป และโลก สามารถมาต่อสู้เคียงข้างกับชาวยูเครนเพื่อต่อต้านอาชญากรสงครามของรัสเซีย” แถลงการณ์ในเว็บไซต์ของประธานาธิบดีระบุอย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยกับ Military Times ว่า ยูเครนต้องการอาสาสมัครที่มีประสบการณ์การสู้รบที่ต้องการการฝึกอีกเล็กน้อย และการเข้าร่วมกองทหารต่างด้าวต้องมีเอกสารยืนยันว่าเคยรับราชการทหาร หรือทำงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและเข้าร่วมการสู้รบ “เราไม่ต้องการส่งคนที่ไม่ได้รับการฝึกออกไปสู้ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนก็สามารถให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้ หรือบางคนอาจวิเคราะห์สื่อมวลชนหากไม่ประสงค์จะสู้บ” เจ้าหน้าที่สถานทูตเผยกับ Military Times ด้านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเกี่ยวกับการรับราชการทหารในต่างประเทศระบุว่า “การเข้าร่วมกับกองทัพของต่างชาติอาจไม่ถือเป็นการขัดต่อกฎหมายสหรัฐ” อย่างไรก็ดี “หากบุคคลใดบุคคลหนึ่งถูกเกณฑ์หรือถูกว่าจ้างในสหรัฐ” อาจขัดต่อกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า ยูเครนไม่ได้จ้างบุคคลใดและเพียงเปิดประตูให้อาสาสมัครที่ต้องการช่วยเหลือเท่านั้น