แชมป์ยุโรป และแชมป์อเมริกาใต้กินกันไม่ลงในเวลาปกติโดย สิงห์บลูส์ นำหน้าก่อนในนาทีที่ 55 จากลูกโขกของ โรเมลู ลูกากู แต่มาโดนตีเสมอจากการสังหารลูกโทษของ ราฟาเอล เวก้า ในนาทีที่ 64 จึงต้องเล่นกันต่ออีก 15 นาทีก่อนที่ทีมจาก พรีเมียร์ลีก จะมาได้ลูกโทษเช่นกันในนาทีที่ 117 “หลังจากได้แชมป์ยุโรป ตอนนี้เราเป็นแชมป์โลกแล้ว มันฟังดูดีมากขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อ ผมวิตกเหมือนกัน มันเป็นลูกโทษที่สำคัญ” ฮาแวร์ตซ์ เอ่ย “มันบ้ามาก เป็นเรื่องดีที่ผมระงับความกังวลเอาไว้ได้ และผมมีความสุขมาก” “ผมคิดว่าผมเป็นคนยิงลูกโทษลำดับที่สาม จอร์จินโญ่ ไม่ได้เล่น และ รอม (โรเมลู ลูกากู) โดนเปลี่ยนออกไปแล้ว นักเตะคนอื่นๆมอบความเชื่อมั่นให้กับผม ฮาคิม บอกให้ผมยิงลูกโทษ และทุกคนบอกให้ผมยิง” “ผมฝันถึงสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็ก มันเป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งสำหรับผม ผมขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้มาอยู่ที่นี่ ผมขอขอบคุณครอบครัว และแฟนของผม” พร้อมกันนี้ ฮาแวร์ตซ์ ยังเป็นนักเตะรายที่สองเท่านั้นที่ยิงประตูให้ทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้ทั้งนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก (ปี2021) และนัดชิงชนะเลิศสโมสรโลก …